Category Archives: การเอาไปใช้

Form Tech – Access App

หลังจากที่คราวก่อนเขียนกับ Form Technology ที่จะนำมาใช้บน SharePoint ที่ Microsoft ได้พูดถึง หนึ่งในนั้นก็คือ Access App วันนี้ก็เลยมาเขียนถึงหน่อยดีกว่าว่า เราจะสร้าง Form เก็บข้อมูล ด้วย Accesss App ได้ยังไง

(จริงแล้ว Access Web App มีมาตั้งแต่ สมัย SharePoint 2010 กับ Office 2010 แต่ไม่ค่อยมีคนพูดถึงเท่าไหร่)

ก่อนอื่นเราต้องเข้า SharePoint Site แล้วเลือก Add Apps หลังจากนั้นให้ค้นคำว่า access.

image

ก็จะมี Dialog ให้เราตั้งชื่อ เราก็จัดการใส่ลงไป

image

เมื่อกด create ก็จะได้ App ขึ้นมาแล้ว แต่ยังไม่เสร็จนะครับ

image

พอเรากด ที่ icon เราจะเจอหน้าตาแบบนี้ เราต้องมี MS Access 2013  มาใช้ในการ ออกแบบ

image

เมื่อเรากดที่ link “Open this app in Access to start adding tables” เราก็จะได้ ไฟล์มาจะเห็นว่า Type เป็น Microsoft Access Web Application

image

พอเราเปิดไฟล์ ก็จะเจอข้อความแบบนี้ เพื่อบอกว่า ต้องมีการ download ข้อมุลบางอย่างจาก internet ซึ่งก็คือ SharePoint site เรานั่นแหละครับ ก็กด OK ไป

image

เมื่อพอถึงหน้า การเพิ่ม ตาราง เราจะสามารถ ออกแบบเอง หรือจะใช้ตารางจาก template ก้อได้ครับ เพื่อความสะดวกผมเลือก Employees จาก template ละกัน

image

รวดเร็วปานเน็ต 3G (เร็วจริงเหรอ?) เราก็ได้ Table พร้อมกับ Form มาเรียบร้อย พร้อมทำงาน ห๊ะ!!

image

ถ้าเรากด Edit เราก็จะเข้ามาสู้หน้าจอการออกแบบให้เราปรับแต่งได้ครับ ซึ่งพอเราคลิ๊กไปบนตัว control ก็จะมี quick menu ให้เราใช้ได้สามเรื่อง คือ Data, Formatting, Action

ตัว Data จะมีไว้ให้เราทำ binding data กับ control รวมถึงการกำหนดค่าเริ่มต้นแบบ static หรือ dynamic ผ่าน expression builder ได้

image

ตัว Formatting ก็จะกำหนด Tooltip, Visible, Enabled, Input Hint

image

และตัว Action ก็จะกำหนด การทำงานได้ว่าให้ทำอะไร ในกรณ การ click และ หลังข้อมูลมีการปรับปรุง

image

หน้าจอการกำหนด Action

image

พอเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ให้กด Lunch App

image

Browser ก็จะถูกเปิดขึ้นและแสดง form บน SharePoint แบบนี้ครับ เราสามารุเพิ่มข้อมูลได้เลย

image

ดูข้อมูลแบบ List Item

image

หรือจะดูแบบ Tabular ก็ได้ ขึ้นอยู่กับการออกแบบของเราครับ

image

ซึ่ง support กับ browser อื่นๆ นอกจาก IE แล้วเช่นกัน

image

ย้อนกลับมานิดนึง เวลาที่เราสร้าง App เสร็จแล้ว เราสามารดูรายละเอียดของ App ได้ด้วยครับ

image

ซึ่งข้อมูลก็จะอัพเดททุกๆ 24 ชั่วโมง

image

นี่ก็เป็นวิธีคราวๆ ในการสร้าง Form Application บน SharePoint online ด้วย Access ที่เรารู้จักกันมายาวนานครับ

ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่

Access for Developer – http://msdn.microsoft.com/en-us/office/aa905400

Developer training for Office, SharePoint, Project, Visio, and Access Services – http://msdn.microsoft.com/en-US/office/dn448488

LinkedInFlipboardEmailOutlook.comPrintFriendlyWhatsAppYahoo BookmarksYahoo MessengerKindle ItGoogle BookmarksBaiduDeliciousShare

Upload Files ขึ้น SharePoint Online ด้วย PowerShell #2

 

จากคราวที่แล้วที่เราค้างไว้ ถึงเวลาที่เราสามารถ เชื่อมต่อกับ SharePoint Online Site ได้เรียบร้อยแล้วนะครับ

 

เราก็จะมาต่อที่ Function BulkUpload ที่เรา comment ออกไป ซึ่งในนี้ หลักง่ายๆคือเราจะอ่านไฟล์ ที่มีอยู่ใน folder ที่เราเลือกไว้

 

image

 

ในบรรทัด 43 เราะจะเห็นว่าเราใช้ cmd-let Get-ChildItem เพื่ออ่านไฟล์ทั้งหมด เก็บไว้ในตัวแปร $Files ซึ่งเป็นแบบ Object Collection แล้วเราก็ทำการ Loop หาชื่อไฟล์ที่อยู่ใน collection ส่งไป

ง่ายมั๊ยคับ ^_^

ในบรรทัด 49 เราก็ส่งค่าไปยัง fuction “UploadFile”   ซึ่งจะมีหน้าตาแบบนี้

image

อธิบายได้ตามนี้เลยครับ

10 เป็นการตรวจสอบว่ามีไฟล์นี้มีจริงๆมั๊ย (ย้ำคิดย้ำทำ เผื่อว่าเอาไปให้คนอื่นใช้ต่อแล้วเค้าไมได้ตรวจมาก่อน)

13 ประกาศ Object File ของ SharePoint

15 อ่านไฟล์ในรูปของ byte ใส่ไว้ในใน Content (เพราะว่า ใน SharePoint จะเก็บไฟล์ใน Database)

16 ใส่ชื่อไฟล์

19 หา document library ที่เราต้องการขึ้นมาใส่ไว้ใน object ชื่อ $DocsLib

21 เป็นการบอกว่าเราจะ เพิ่มไฟล์ละนะ

23-24 เป็นการ สร้างไอเท็มมาเกาะไว้กับ ไฟล์ที่เราต้องการอัพโหลด

26 หาชื่อของผมผู้ใช้ที่ login อยู่ขณะนั้น

28 – 33 อัพโหลดครับ

34 ถ้าทำงานถูกต้องใช้ function ส่งค่ากลับเป็น True.

 

ตอนนี้เราก็เข้าไปดูว่า มี Document library อยู่จริง

 

image

แล้วเราก็ Run ได้ผลแบบนี้

image

อัพเสร็จแล้ว

 

image

 

 

จบแล้วด้วยความง่ายดาย มีข้อสงสัยยังไงก็สอบถามเข้ามาได้นะครับผม

สวัสดีครับ

LinkedInFlipboardEmailOutlook.comPrintFriendlyWhatsAppYahoo BookmarksYahoo MessengerKindle ItGoogle BookmarksBaiduDeliciousShare

Yammer เตรียมเปลี่ยน Embed Code ดีเดย์ 9 เมษา

สวัสดีครับ

วันนี้มีข่าวมาฝากนิดหน่อย เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของ Yammer และแน่นอนเกี่ยวกับ SharePoint.in.TH โดยตรง เพราะว่า blog นี้ integrate Yammer ไว้ด้วยเช่นกัน ใครยังได้ลองต้องลองเลยครับ รายละเอียดอยู่ในบล็อกก่อนหน้า

โดยสรุปแล้วก็คือต้องเราต้องเปลี่ยน embed code เก่านั่นเอง  ซึ่งทาง Yammer บอกว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะเพิ่มความง่ายให้กับ user ด้วยสิ่งที่เรียกกว่า SSO (Single Sign-On)  หรือก็คือสิ่งที่จะช่วยให้ ผู้ใช้ในระบบ ของเราไม่ต้องยืนยันตัวตนอีกครั้ง (ในกรณีที่เค้าทำการยืนยันตัวตนไว้แล้ว) ซึ่งในกรณีนี้ ก็คือ ผู้ใช้ Log in เข้าเว็บ Yammer.com ไว้แล้ว (ประมาณว่า เปิดคอมปุ๊บเข้าปั๊บ แบบเราเข้า facebook) แล้วพอมาเข้าเว็บไซต์หรือระบบที่เรา Integrate Yammer เอาไว้ ผู้ใช้จะไม่ต้อง log in อีกทีหนึ่ง เอาสั้นๆ ง่ายๆแค่นี้ก่อน

แล้วคราวนี้ถ้าไม่เปลี่ยนจะเป็นยังไง?

พอดีว่า Blog SharePoint.in.TH ก็ Integrate Yammer ไว้ตั้งแต่ ตุลาปีที่แล้วละ ดังนั้นแน่นอนว่าเป็น Code เก่า ดังนั้นผู้ใช้ จะเห็นแบบนี้ (ถึงแม้ว่าจะ login  Yammer ไว้แล้วก็ตาม)

2014-02-08_0557

 

และโดยปกติ (ก่อนที่จะได้รับเมล์ ด้านล่าง)  พอกด ปุ่มสีฟ้าๆ ระบบก็จะ pop up หน้าต่าง ให้เรา login แบบนี้

2014-02-08_0605

แล้วผู้ใช้ของเราก็จะเห็น Feed  (เหนื่อยจริง กว่าจะเล่นได้) จาก email เค้าบอกว่าประมาณ กุมภาฯ pop up ตรงนี้จะหายไป (รอดู)

 

ถามว่าแล้วถ้ายังไม่เปลี่ยนได้มั๊ย รอเมษาก่อนอะไรแบบนี้?

คำตอบคือ ไม่ได้ครับ เพราะว่าถ้าเรายังไม่เปลี่ยน Code เวลาที่เรากดปุ่ม สีฟ้า จะเจอหน้าจอแบบนี้แทน (งานเข้า แน่ๆ ถ้าใช้ในองค์กร)

2014-02-08_0557_001

ครับ ดังนั้นรีบอัพเดทกันก่อนดีกว่า  ด้านล่างผมเปรียบเทียบ code (ในกรณีนี้ผมใช้เป็น embed script) ก็หน้าตาประมาณนี้ มีการเปลี่ยน reference ถึง java script file กับ ต้องระบบ ความกว้าง (ขั้นต่ำ) 400 px  (ความสูงไม่กำหนด แต่ ถ้าน้อยมาก ก็จะต้อง scroll เยอะ ไม่สนุก)

2014-02-08_0615

ตอนนี้ก็ผมอัพเดท widget ด้านข้าง หรือว่าจะเข้าไปเล่นที่ Online.SharePoint.in.TH ก็ได้ตามสะดวกครับ

สวัสดีครับ

 

—————— ผมแนบต้นฉบับอีเมล์มาไว้ให้ด้วยเลย เผื่อว่าใครอยากอ่านภาษาอังกฤษ นะครับ

Action Required:
Embed Integration Upgrade

On April 9th 2014, we will be moving to a new version of Yammer Embed and retiring our current Embed code. We have identified your network as having an active Yammer Embed instance — to ensure you do not encounter any service disruptions, we encourage you to begin the upgrade process as soon as possible.

Embed Improvements – What has changed?
Our new Embed has enhanced security and reliability — and includes some additional functionality. We’ve streamlined the SSO user experience: authorized users will now be automatically logged into your Embed instance via any SSO-enabled network (removing the blue “log-in” button). We are also simplifying the sign-up flow: eliminating the pop-up prompt for log-in. With additional updates (in February), users will also be able to embed a group feed (not just the All Company group) – we will provide additional communications when this becomes available. All other existing Embed feature functionality (including SSO expiration policies) will remain the same

What does this mean for my network?
You should begin the upgrade process as soon as possible. The Embed Update should be a straightforward process for you and/or your IT administrators and require all instances of Embed to be replaced.

Embed Upgrade Guide:
http://success.yammer.com/integrations/yammer-embed/

Please do not hesitate to reach out with to the MS Support team for assistance. http://community.office365.com/en-us/default.aspx

Thank you,
The Yammer Team

YCN FAQ:
https://www.yammer.com/yammerycn/notes/1061603

LinkedInFlipboardEmailOutlook.comPrintFriendlyWhatsAppYahoo BookmarksYahoo MessengerKindle ItGoogle BookmarksBaiduDeliciousShare

Exchange & SharePoint 2013 – Together Better.

ผ่านไปอีกหนึ่งงาน สำหรับงานสัมมนาดีๆ ที่จัดโดย MVPSkill.com  งานนี้ SharePoint.in.TH ก็ได้ไปแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานร่วมกันระหว่าง Exchange Server (แน่นอน เพราะเป็นงาน Exchange นี่นา) ทำงานร่วมกับ SharePoint Server แล้วจะมีความสามารถอะไรเพิ่มเติมขึ้นมาบ้าง

เนื้อหาโดยสรุป (ตัดส่วนไร้สาระออกไปแล้ว และบางอย่างไม่ได้อยู่ใน slide) ได้แก่

  • Site Mailboxes เป็นการเพิ่มอำนาจในการบริหารจัดการแก่ Power User ที่ใช้งาน SharePoint ให้สามารถสร้าง mailboxes ขึ้นมาใหม่สำหรับใช้งานร่วมกันระหว่าง members ของ Team Site
  • ความแตกต่างของ Site Mailboxes  กับ Public Folder (ในมุมมองของ IT Pro) คือ Public Folder ตัวอีเมล และเอกสาร (แนบที่ใช้กันใน โปรเจค) จะถูกเก็บอยู่บน Database ของ Exchange. แต่ Site Mailbox ตัวอีกเมล์จะเก็บน Exchange แต่ เอกสารจะเก็บบน SharePoint (เป็นการกระจายโหลด แบบหนึ่ง)
  • เพิ่มความสะดวกในการจัดการ Mailbox ของ สมาชิกในทีมโปรเจค และ สำหรับสมาชิกที่เพิ่งถูกดึงเข้ามาในโปรเจค เพราะ อีเมล์ในโปรเจค ถูกเก็บในทีเดียวกัน คือ Site mailbox.
  • รองรับการการใช้งาน eDiscovery Feature
  • eDiscovery Site Collection เป็นการเพิ่มความสะดวกสบายและให้อำนาจแก่ พนักงานในองค์กรที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น แผนกตรวจสอบภายใน แผนกกฏหมาย แผนกทรัพย์สินทางปัญญา ในการตรวจสอบข้อมูล ที่อยู่ใน mailbox, site บน SharePoint.
  • eDiscovery ไม่ใช่ของใหม่เอี่ยม ถ้ามองย้อนกลับไปที่ SharePoint 2010 จะมี Record Center ที่สามารถทำได้คล้ายๆ แต่ขอบเขตจะถูกจำกัดที่ Site ของตัวเองเท่านั้น
  • นอกจากแผนกที่เกี่ยวข้องทางกฏหมายจะทำงานได้ง่ายขึ้น เข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นต่อการดำเนินการทางกฎหมายได้ง่ายขึ้น แผนกอื่นๆ ยังสามารถใช้ประโยชน์นี้ในงานตัวเองเช่นกันเช่น การค้นหา ข้อมูลอีเมล์ หรือเอกสาร (ที่อยู่บน SharePoint) เก่าๆ ของโปรเจคที่ผ่านมา เป็นต้น
  • ลดความยุ่งยากของไอที ในการที่บริหารจัดการ สืบคืนข้อมูล รวมถึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรับมือเหตุการณ์ที่ พนักงานในองค์กรจะกระทำผิดกฎบริษัทได้
  • อย่างไรก็ตามต้องมีนโยบายในการบริหารจัดการด้วย เช่น การทำการอบรมหรือแจ้งให้ผู้ใช้ทราบเกี่ยวกับนโยบาย ICT ขององค์กร และใช้งานอย่างมี จริยธรรมทางวิชาชีพ (Professional Ethic)
  • Skye drive ด้วยการทำงานพื้นฐานไม่แต่ต่างจาก cloud storage อื่นๆ แต่ความได้เปรียบคือ การทำงานร่วมกันของพนักงานองค์กรที่มี SharePoint 2013 อยู่แล้ว

 



 

ภาพรวม ดูคนฟัง (ที่ส่วนใหญ่เป็น IT Pro) นิ่งๆไป ไม่ค่อยแน่ใจว่า กำลังอึ้ง หรือว่างงตั้งแต่ SharePoint แล้ว เพราะจากการสอบถามเบื้องต้น ยังไม่ค่อยได้ยุ่งกับ SharePoint เท่าไหร่ จนเริ่มสงสัยว่า SharePoint เป็นโปรดัก ซับซ้อนเกินไป หรือว่าบริษัทส่วนใหญ่ในไทย ยังไม่ได้ความสำคัญเกี่ยวกับ Collaboration ในองค์กรเท่าไรนัก

เจอกันอีกครั้งนะครับ งาน Power shell Day : Demo fest. วันที่ 1 มีนาคม 2014  ติดตามข่าวสารกันให้ดีๆนะครับผม

สวัสดีครับ

ปล  ซักกลางๆ ปีอยากมีงานที่ SharePoint เป็นพระเอกบ้าง อยากหาคนสนใจมาร่วมแบ่งปัญประสบการณ์มาแชร์กัน ใครสนใจหลังไมค์มาได้เลยนะครับ

LinkedInFlipboardEmailOutlook.comPrintFriendlyWhatsAppYahoo BookmarksYahoo MessengerKindle ItGoogle BookmarksBaiduDeliciousShare

สร้าง Web Site ง่ายๆ ด้วย SharePoint Online – ตอนที่หนึ่ง setup ล้วนๆ

มาถึงของดอง เขียนค้างๆไว้ เพิ่งมีเวลาเอามาลง ฮิๆๆ  เมื่อเราพูดถึง SharePoint เรามักจะนึกถึง การใช้งาน ภายในองค์กร ที่ก่อนใช้งานจะต้องมีการ Log in ด้วย user ของบริษัท ใช่มั๊ยครับ แต่จริงๆ แล้ว เราสามารถใช้ SharePoint ทำเป็นเว็บไซต์ ให้คนทั่วไป
วันนี้ผมจะมาพูดถึงวิธี การสร้างเว็บ ด้วย Domain ของคุณเอง ด้วย SharePoint Online

สิ่งที่จะต้องมีก่อนนะครับ

  1. Domain เช่น ของผมเป็น sharepoint.in.th
  2. Account Office 365 ที่ใช้งาน SharePoint ได้
  3. สิทธิ์ในระดับ Global Administrator

 

ส่วนขั้นตอนต่างๆ  โดยสรุปก็จะเป็นดังนี้

  1. Verify Domain Name
  2. Create/ Mapped public facing website
  3. Update Website & Make it available

 

Verify Domain Name

ถ้าหาเราต้องการใช้ Domain name กับ office 365 เราต้องมาที่ Office 365 Admin Center แล้วเลือก Domains

image

จากนั้นให้กด Add Domain เราจะเห็นหน้าจอแบบนี้ ให้คลิ๊ก Start step 1

image

กรอก domain ของเราลงไป ตรงนี้ครับ ถ้าเรามีการใช้งานบริการอื่นๆเช่น Exchange Online, Lync Online ให้กรอกเป็น domain ลงไปครับ

หรือถ้ายังไม่มี Microsoft ก็แนะนำให้ซื้อกับ GoDaddy เพื่อความสะดวกในการ setup ต่อไป แต่ผมซื้อไว้แล้วผมก็กรอกเลย

image

ระบบก็จะให้เราแก้ไขค่า DNS บน Domain ของเราเพื่อยืนยันว่า เราเป็นเข้าของ Domain นั้นจริงๆ คับ แถมยังมี template ให้เราส่งไปหาผู้ให้บริการด้วย หน้าตาเป็นแบบนี้

image

หลังจากที่เราเข้าไปแก้ไข DNS แล้ว ปกติ จะต้องรอ 12-48 ชั่วโมงนะครับ (ระยะเวลารอคอยแล้วแต่ครับแต่ไม่เกินไปกว่านี้) เราก็กลับเข้ามากด “done, verify now”

image

 

…. เวลาผ่านไปไว เหมือนโกหก …..

 

image

 

เย้…. ยังครับยังไม่จบ

ต่อไปจะเป็นการ Add User เข้า Domain ซึ่ง ผมจะ บอกระบบให้ข้ามไปเพราะ public web site ไม่ต้องมี user ให้ทำแบบนี้ครับ

image

พอมาถึงหน้านี้ให้เลือกแบบผมครับ

image

ผ่านไปอีกหนึ่ง ต่อไปขั้นสุดท้ายละ

 

image

พอกดปุ๊บให้เลือกแบบนี้ครับ

ระวัง!!

สำหรับใครที่ใช้ บริการ exchange หรือว่า lync online  หน้านี้ต้องระวังนะครับ เพราะว่า ถ้าเราต้องการใช้อีเมล์ @domain.com เราจะไม่สามารถใช้ชื่อเว็บเป็น http://domain.com ได้ เราต้องใช้ชื่ออื่นๆแทนเช่น http://www.domain.com   (ขั้นตอนการใส่ domain)

image

หลังจาก ตกลงปลงใจแล้วก็ให้ กด Next

เราก็จะมาเจอหน้าที่บอกเกี่ยวกับวิธีการใช้งาน public facing website ให้ลองอ่านดูก่อนครับ

image

ในนั้นจะบอกด้วยว่า ทำเว็บให้ available online ได้ยังไง

image

จากนั้นระบบจะสอนให้เรา ไปเปลี่ยนชื่อเว็บ ของ public facing ใหม่ ซึ่งจาก ปกติ จะเป็น -public.sharepoint.com">-public.sharepoint.com">http://<tenant>-public.sharepoint.com

ให้กดผ่านไปเลย เด๋วผมจะมา เขียนไว้ตอนท้าย

image

หลังจากนั้นให้ ระบบจะบอกกับเราว่าให้ ไปเพิ่ม DNS นะ

image

 

คราวนี้ก็รอ 12-48 ชม เช่นเคย แล้วให้กลับเข้ามากด done, go check  ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ควรจะได้หน้าจอแบบนี้ครับ

 

image

เพื่อให้แน่ใจ เมื่อเรากลับมาที่ หน้า Office 365 Admin Center แล้ว ไปที่ Domain เราควรเห็น Domain ที่เราจัดการ Active อยู่

 

image

 

คราวนี้กลับมาตอนที่เปลี่ยนชื่อ domain ของ public facing นิดนึง

จาก Topbar ด้านบนให้เราเลือก Admin แล้วก็ SharePoint

image

เราก็จะเห็น public facing ของเราให้ check box ที่หน้า url  -public.sharepoint.com">-public.sharepoint.com">http://<tenant>-public.sharepoint.com แล้ว เลือก WebSite Domains

image

เสร็จแล้วก็เลือก Domain ที่เรา setup เอาไว้

image

จบแล้วจร้า…..

 

ปล.  จริงๆ แล้ว public facing ของผมชี้ไปที่ http://online.sharepoint.in.th เพราะว่าผมต้องการใช้ @sharepoint.in.th กับ Exchange Online/ Lync Online แต่หน้าจอที่เห็นผมใช้เทคนิคนิดหน่อยครับ ฮิๆๆ

LinkedInFlipboardEmailOutlook.comPrintFriendlyWhatsAppYahoo BookmarksYahoo MessengerKindle ItGoogle BookmarksBaiduDeliciousShare