TechNet/MSDN Campus Live

วันอังคารที่ 5 เมษายน 2554 เวลา 9:30 – 17:00 น.
ณ อาคาร 11 มหาวิทยาลัยศรีปทุม “ลงทะเบียนด่วน รับเพียง 250 ที่นั่งเท่านั้น”
หรือ ชมถ่ายทอดสดทาง www.techhero.in.th

ปี 2011 คือ ปีเริ่มต้นของทศวรรษใหม่และจะเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ด้านนวัตกรรมของ Microsoft โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับชาว IT Pro และ Developer เชิญพบเทคโนโลยีใหม่ที่กำลังทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง เช่น IE9, Cloud Services, Windows Phone 7, Visual Studio 2010 SP1, Visual Studio LightSwitch, หรือแม้แต่การก้าวเข้าสู่ยุค Natural User Interface (NUI) ที่เริ่มต้นด้วยอุปกรณ์อย่าง Kinect ซึ่งท่านสามารถสัมผัสเทคโนโลยีเหล่านี้ได้ที่งานนี้

จากการสำรวจความพึงพอใจของชาว IT Pro และ Developerในช่วงที่ผ่านมาหลายท่านได้เสนอให้เราปรับปรุงในส่วนเนื้อหาและรูปแบบให้สามารถตอบสนองผู้ที่ไม่สามารถเข้าร่วมสัมนา ณ สถานที่จัดงานได้ เราจึงจัดให้มีการถ่ายทอดสดผ่านทางเว็บ www.techhero.in.th ซึ่งท่านสามารถย้อนกลับมาดูในภายหลังได้ตลอดเวลาอีกด้วย

พิเศษ! สำหรับท่านที่ชมงานสัมนาทางออนไลน์ที่ www.techhero.in.th เท่านั้น ลุ้นรับเสื้อยืด Microsoft สุดเท่ห์ และชิงของรางวัลพิเศษสำหรับท่านที่เข้าไปโพสต์ข้อความหรือตั้งคำถามภาษาไทยบน TechNet Forum ภาษาไทย และ MSDN Forum ภาษาไทย
ในวันอังคารที่ 5 เมษายน 2554 นี้

ติดตาม Agenda และรายละเอียดของงานเพิ่มเติมได้ ที่นี่

Continue reading

LinkedInFlipboardEmailOutlook.comPrintFriendlyWhatsAppYahoo BookmarksYahoo MessengerKindle ItGoogle BookmarksBaiduDeliciousShare

สร้าง VDO. Site ด้วย Asset Library (SharePoint 2010) by Banpote Ryan

ก่อนอื่นต้องขออภัยเพื่อนจอห์นก่อน ที่ดองของไว้หลายวันจนเกือบลืม วันนี้นึกขึ้นได้เลยเอามาโพสให้เร็วพลัน สืบเนื่องมาจาก กระทู้นี้ ครับ ผมเลยส่งไปบอกจอห์นเพราะเคยเห็น demo งานอยู่ แล้วก็ได้มาเป็น slideแบบนี้ครับ


SharePoint Server 2010 – Asset library by Banpote Ryan

LinkedInFlipboardEmailOutlook.comPrintFriendlyWhatsAppYahoo BookmarksYahoo MessengerKindle ItGoogle BookmarksBaiduDeliciousShare

สร้าง report จาก external database ไม่ง้อ BDC : 2 Config Reporting Service

ทิ้งห่างจาก ตอนแรก นานเลยวันนี้ คิดงานไม่ออกแล้วก็ขอแอบมาอู้เขียนบทความนิดนึง

ก่อนอื่นต้องข้อแก้ข้อมูลเกี่ยวกับ version ของ Database ที่รองรับการทำ Integrated ระหว่าง SharePoint และ Reporting Service ก่อนนะครับว่า edition ที่รองรับ จะเริ่มต้นตั้งแต่ standard, developer, enterprise นะครับ (แต่ในภาพที่เห็นเป็น express ที่มีหน้าตาการ config เหมือนกัน)

จากคราวที่แล้ว เราเตรียมของ ไว้พร้อมแล้ว (บางคนอาจจะรอจนเบื่อแล้วก็ทำไปเรียบร้อยแล้ว อิอิ) เราก็เริ่มลงมือ ตอนลงโปรแกรมผมจะคร่าวๆนะครับ จะเน้นตอน config การใช้งาน reporting service บน sharepoint มากกว่า

  1. สมมติว่าเราใช้เครื่อง server แบบ all in one ก่อนนะครับ เครื่องเราก็เป็น window server 2003 r2 std, windows vista business windows 7 pro (ส่วน 2008 ยังไม่ได้ลอง)  OS พวกนี้คือ ที่ผมลองลงมาแล้วนะครับ อ้อ เครื่องที่ผมลอง join domain ทุกตัวนะครับ (แต่คงไม่เขียนส่วนนี้ เพราะมันหลุดออกไปไกลพอสมควร)
  2. พวก .net framework 2.0 / 3.5 ก็ลงไปไว้ก่อน
  3. Enable  IIS ก่อน  (เพราะ Reporting Service ต้องการ ใช้ด้วย WSS3.0 ก็ต้องใช้เช่นกัน)
  4. เรายังไม่ต้องลง sharepoint (wss3.0)  ให้เราลง Database server ไปก่อน SQL Server 2005 ขึ้นไป จะ Std/ Developer/ Enterprise ก็ได้นะครับ ตอนลง database เรายังไม่ต้อง config reporting service ไว้ก็ได้นะครับ ไว้ทำทีเดียว
  5. ต่อไปเราก็ลง WSS3.0 แบบ Advance โดยใช้ database เป็น ตัวที่เราลงไว้ เราก็ลงไปจน ถึง สร้าง site collection เลยแล้วกันครับให้แน่ใจว่าใช้งานได้
  6. มาถึงขั้นตอน การ config reporting service ให้ทำงานบน sharepoint แล้ว ให้ สูดหายใจลึกๆ หนึ่งที เพราะกว่าจะลงด้านบนเสร็จหมด ก็คงเกือบ สองชั่วโมงได้แล้ว
  7. ก่อนอื่น เรามา config sql reporting service ก่อน หลักใหญ่ใจความสำคัญคือ reporting service ปกติ มันจะเป็น Native mode จริงๆแล้วตอนเลือก มี ให้เลือก native mode (default) กับ sharepoint integrated โหมด แต่ผมเชื่อว่า ทุกคนคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร เนื่องจาก next next finish มันทำให้เพลิน หรือไม่ก็ปล่อยมันผ่านๆไป เพราะ sharepoint คืออะไรก็ไม่รู้  หรือบางคนไม่เคยลง reporting  service เลยก็มี (แบบผมเพิ่งมารู้จัก ไม่นานเอง แหะๆ)
  8. หน้าตาเป็นแบบนี้คับ (อันนี้แอบ config ไปแล้วหลายครั้ง อาจจะต่างกันเล็กน้อย) ดูตามภาพเลยนะครับ (click เพื่อดูภาพเต็มขนาดใหญ่)
    ให้เรากด Change Database
    เลือก Create a new report Server database แล้วก็ next
    พอดีเครื่องผมลง SQL Server ใช้ 2 Instance ก็เลือกแล้วกด Test Connection ให้เรียบร้อย


    ใส่ชื่อ Database ที่จะสร้างใหม่เพื่อใช้กับ WSS3.0  และที่สำคัญ เลือก SharePoint Integrated Mode  และ กด Next


    ถึงตรงนี้ก็เกือบครึ่งทางแล้ว ถ้าเป็น Production server เราควรจะมี user account เพื่อมาจัดการด้วยนะครับ อันนี้เป็น Test ก็ใช้อันนี้แหละ ง่ายดี


    ตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง ถ้าแน่ใจแล้วก็กด  Next

    ระหว่างนี้ก็ออกไปกินข้าวนอกบ้าน หรือไปเที่ยวไหนไกลๆซักพัก   ไม่ใช่ละ รอแป๊บนึงครับไม่นานๆ พอเสร็จหมดแล้วก็ กด Finish


    พอมาถึงตรงนี้ ก็เป็นอันจบฝั่งการ config ตัว Reporting Service แล้วคับ เย้ๆๆๆ ครึ่งทางแล้ว ต่อไป เรามาลง Reporting Service Add-in for SharePoint กัน อันนี้ต้องโหลดมาให้ตรงกับ version ของ database ที่เราใช้นะครับ

  9. การลง Reporting Service Add-in for SharePoint ง่ายมาก คือไม่ต้อง config อะไรเลย แต่สิ่งที่ทำคือมันจะเป็นการไปเพิ่ม web part ที่เกี่ยวข้องกับ การแสดง report และ ยังไปเพิ่ม Feature บน SharePoint อีกด้วยครับ ก่อนอื่น เราก็เข้าไปหน้า Central Administration ก่อน เลย แล้วไปที่ Site Actions -> Site Settings -> Site Collection features แล้วไป Activate feature ที่ชื่อ Report Server Integration Feature
  10. เสร็จแล้วให้กลับมาหน้า Central Admin – Application Management เราจะ เห็นว่ามี section ใหม่ ขึ้นมา

  11. เข้าไปที่ Manage integration settings. แล้วนำค่า ที่ได้จาก Web Service URL ดังภาพ


  12. จากนั้นั้นก็เอาค่า URLs ที่ได้ ใส่ลงในช่อง Report Server Web Service URL โดย mode ที่ setไว้แต่แรก คือ Windows Authentication

มาถึงตอนนี้เราก็ได้จัดการ config เบื้องต้นเรียบร้อยแล้วนะครับ คราวหน้า จะมาเล่าเกี่ยวกับการสร้าง report แล้วก็การนำเสนอ report บน SharePoint ให้ฟังกัน

มีข้อสงส้ยตรงไหน ก็สามารถฝากไว้ในคอมเมนท์ หรือว่า จะไปตั้งกระทุ้ถามใน forum ก็ได้นะครับ.
สวัสดีครับผม

ปล entry นี้เขียนเสร็จกลางทาง ระหว่างนั่งเรือไปเกาะล้าน ^^

LinkedInFlipboardEmailOutlook.comPrintFriendlyWhatsAppYahoo BookmarksYahoo MessengerKindle ItGoogle BookmarksBaiduDeliciousShare

ตามหาบริษัทที่เน้นให้บริการเกี่ยวกับ SharePoint ในไทย (พื้นที่โฆษณาฟรี)

สืบเนืองมาจาก ช่วงนี้ต้องผันตัวไป coding windows service เพื่อ crawl ข้อมูลจาก Exchange แล้วใส่เข้าไปใน Database. ดังนั้น ช่วงนี้เลยไม่ได้แตะ SharePoint เลย (มาแก้ตัว) แถมหัวหมุนกับการ ศึกษาเรื่องใหม่ๆ (ใหม่ของผม เก่าของคนอื่น) เช่น WebDAV, Exchange Web Service, LINQ

ก็ไม่อยากให้ หน้าแรกค้างเติ่งไว้นาน เลยหาอะไรทำนิดนึง คือ อยากให้ เพื่อนๆ ช่วยกันแชร์ข้อมูลว่า บริษัทไหนบ้าง ที่เน้นการให้บริการ เกี่ยวกับ SharePoint บ้าง (ตัวแทนบริษัท จะมาโฆษณาเองก็ได้นะครับ) เผื่อว่าใครสนใจจะได้ติดต่อไปถูกที่ถูกทาง

ของผมมีข้อมูลอยู่สองสามที่ ตาม link นี้ครับ  (เรียงตามใจ)

ใครมีบริษัทไหน เคยทำงานด้วย หรือว่า บริษัทใครรับทำเกี่ยวกับ SharePoint ก็ โพสไว้ในคอมเมนท์ได้เลยครับผม

ส่วนตอนนี้ต้องขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ

สวัสดีครับ

LinkedInFlipboardEmailOutlook.comPrintFriendlyWhatsAppYahoo BookmarksYahoo MessengerKindle ItGoogle BookmarksBaiduDeliciousShare

เพิ่ม Look up Column ให้กับ List และ Library ด้วยการสร้าง Site Column

สวัสดีครับ คราวนี้ขอลัดคิวเป็นการตอบคำถามคุณ korndin ก่อนเกี่ยวกับการสร้าง Look up Column เพื่อนใช้ใน custom list หรือ library ต่างๆ ที่เราสร้างใน site collection (พอดีว่าเคยทำพอดี ท่านอื่นอย่าเพิ่งน้อยใจนะครับ)

เริ่มเลยดีกว่า

ก่อนอื่นเราต้องสร้าง list ที่จะเอามาใช้เป็น Lookup ก่อน ในที่นี้ผมทำไว้ชื่อ Country Name

ต่อมา เราจะมาสร้าง Site Column กัน ก็ไปที่ Site Actions -> Site Columns (Gallery Section)

แล้วก็กด Create

ให้เราตั้งชื่อ Column ที่เหมาะสมลงไป จะเห็นว่าผมกำหนด Type เป็น Look up (information already on the site) ส่วนกรุ๊บเราจะสร้างใหม่ หรือว่าเลือก อันนี้แล้วแต่เรา

ลงมาด้านล่างอีกหน่อย ให้เราเลือก ชื่อ List ทีเราสร้างไว้แล้ว (ในที่นี่คือ Country Name) ตรง Get Information from แล้วเลือก Column ที่มีข้อมูลที่เราต้องการแสดง ซึ่งก็คือ Title  ส่วน allow multiple values คือยอมให้เลือกได้หลายๆค่า เดี๋ยวเราจะเห็นภาพตอนเราไปใช้แล้ว

มาถึงตรงส่วนที่เราจะนำมาใช้กันนะครับ ให้กลับมาที่ Document library ที่เราสร้างไว้ หน้า Document setting ให้เราเลือก add from existing site columns

พอเราเลือก Custom Column (ถ้าเราสร้างไว้ category อื่น ก็ต้องเลือกอันอื่นนะครับ)  เราจะเห็นว่า มีชื่อ Country List ที่เราสร้างไว้อยู่เราก็กด Add เข้าไป แล้วกด ok

คราวนี้พอเรา เพิ่มเอกสารลงไปใน document list อันนี้ ก็จะมี field เพิ่มให้เราเลือกดังภาพครับ (สังเกตว่าจะเลือกได้หลายค่า)

โดยสรุป การทำ site column ก็จะช่วยให้งานของเรายืดหยุ่นมากขึ้น คือถ้า list ที่เรานำมาสร้าง column มีข้อมุลเพิ่มเติม ก็จะมีผลไปกับทุกๆ library ที่มีการใช้ column นั้นครับ  ซึ่งต่างจาก column type แบบ choice ที่จะฝั่งค่า ตัวเลือกลงไปในแต่ ละ library เลย

ผมก็หวังว่าโพสนี้น่าจะพอเป็นแนวคิดและตอบคำถามคุณ korndin ไม่มากก็น้อยนะครับและก็คงจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆคนอื่นๆที่เริ่มต้นใช้ SharePoint เช่นกัน ผมต้องขอตัวไปทำงานและการบ้านก่อนแล้วนะครับผม

สวัสดีครับ

LinkedInFlipboardEmailOutlook.comPrintFriendlyWhatsAppYahoo BookmarksYahoo MessengerKindle ItGoogle BookmarksBaiduDeliciousShare